วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554


   จากน้ำท่วมโคราช...ถึงวันสิ้นโลก 2012

ใบลานสามสีที่ตกมาถึงในวัดแห่งหนึ่งของจังหวัดอัตตะปือ (ประเทศลาว) ว่าถึงพุทธทำนาย
เรื่องคลื่นน้ำสูง 200 เมตรจะเข้าช่องแคบสระบุรี และโคราชตอนล่าง  อันเป็นที่มาของข่าวลือในยุค
หนึ่งว่าน้ำจะท่วมโคราช จ.นครราชสีมาตั้งอยู่บนที่ราบสูงโคราช สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 187 เมตร
ความคิดขณะนั้นคือเป็นไปไม่ได้ แต่ความคิดขณะนี้อะไรก็เป็นไปได้หมด

     นั่นก็เพราะภัยพิบัติทางธรรมชาติของโลกส่อเค้าความหฤโหดมากขึ้นเรื่อยๆ หลายครั้งเรื่องที่ดู
เหมือนจะเป็นไปไม่ได้กลับกลายเป็นจริง ล่าสุดคือวันสิ้นโลก 21 ธ.ค. 2012 ที่นับจากวันนี้คือ 3 ปี
สุดท้ายของโลก 3 ปีสุดท้ายก่อนอารยธรรมโลกจะสิ้นสูญ นี่จะเป็น 3 ปีที่มนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลง
อะไรได้หรือไม่!!!


21/12/12 - วันสิ้นโลกตามปฏิทินของชาวมายา

     21 ธ.ค. 2012 วันสิ้นโลกที่ทั่วทั้งโลกกำลังพูดถึง เรื่องราวและร่องรอยแห่งปมปริศนา
คำพยากรณ์แห่งอนาคตที่แพร่สะพัดอยู่ในเว็บไซต์ชนิดเป็นหมื่นๆ เว็บ ภาพยนตร์ หนังสือ
และงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ร้อนจัดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งหมดสะท้อนความสนใจถึง
ขีดสุดต่อหายนะที่กำลังจะนำมาซึ่งวันสุดท้ายของโลก ความแตกตื่นย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น
เมื่อกว่า 5,000 ปีก่อนในดินแดนเมโสอเมริกา ที่ที่ปฏิทินโบราณฉบับหนึ่งถูกเขียนขึ้น
      วันแรกของปฏิทินแห่งวันสุดท้ายถูกเขียนขึ้นโดยเผ่ามายา ชนเผ่าโบราณที่ว่ากันว่ามี
อารยธรรมสูงสุดในยุคแรกๆ ของโลกร่องรอยที่ทิ้งไว้อลังการชนิดเหลือเชื่อ ตั้งแต่พีระมิด
 และศาสนสถานขนาดใหญ่ อารยธรรมรุ่งเรืองสูงสุดด้วยความรู้ด้านศาสนาปรัชญา คณิตศาสตร์
 ดาราศาสตร์ การประดิษฐ์ตัวเลข ตัวอักษร ระบบดวงดาวแห่งจักรวาล รวมทั้งการจัดทำปฏิทิน
ลองเคาต์(Long Count) กลุ่มตัวเลขที่กำหนดผลลัพธ์หรือโชคชะตาแห่งมนุษยชาติทั้งมวล

     “ชัชรินทร์ ไชยวัฒน์” คอลัมนิสต์และนักเขียนอิสระ ผู้เขียนหนังสือ
21 ธันวา 2012 วันพลิกชะตาโลก ให้ความรู้เกี่ยวกับ
ปฏิทินสะท้านโลกว่า พวกมายาได้คิดค้นปฏิทินขึ้น 3 แบบ คือ ปฏิทินที่ใช้
สำหรับพิธีทางศาสนา ปฏิทินที่ใช้ทั่วไป และปฏิทินที่เรียกว่าลองเคาต์ ซึ่ง
ไม่ได้นับช่วงเวลาแค่ปีต่อปี 365 วันแล้วตัดยอดไปปีหน้าแบบปฏิทินเกรเกอ
เรียนในปัจจุบัน หากปฏิทินได้คำนวณช่วงเวลาทั้งหมดนับตั้งแต่มีโลกใบนี้จน
กระทั่งวันสุดท้ายของโลกเอาไว้
 The Mayan calendar ends on the Gregorian calendar date of December 21, 2012

  
























 หน้าตาของปฏิทินโบราณมีลักษณะเหมือนวงกลม 2 วงที่ซ้อนกันอยู่ วงนอกและ
วงในเกี่ยวโยงสัมพันธ์กันเหมือน “เฟือง” กับ“เกียร์” ต่างหมุนวนไปรอบๆ คล้าย
เฟืองของเครื่องจักร ซี่เฟืองแต่ละซี่ทำงานสอดคล้องกันอย่างซับซ้อนแต่ลงตัวหมดจด
ถอดรหัสออกมาเป็นตัวเลข 5 หลัก มายาแบ่งเวลาออกเป็น 5 ตะวัน เราทั้งหลายขณะ
นี้อยู่ในช่วงของตะวันที่ 5 หรือตะวันสุดท้าย นับหนึ่งวันแรกเมื่อวันที่ 11 ส.ค. เมื่อ 3,114 ปี
ก่อนคริสต์ศักราช หรือเมื่อ 5,122 ปีก่อน

  



มหาพายุสุริยะ


     “ปฏิทินผู้นับกาลแห่งโลก ระยะเวลาอันยาวนานมาสิ้นสุดการนับลง
ณ วันที่ 21 ธ.ค. 2012 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า ทำให้หลายคนคาดการณ์ว่า
นี่อาจจะเป็นวันสุดท้ายของโลก วันสิ้นสุดอารยธรรมของมวล
มนุษย์โลก” ชัชรินทร์ กล่าว

     ไม่ใช่แค่กำหนดจุดจบโลกไว้ลอยๆ หากวันสุดท้ายบนปฏิทินโบราณยัง
สอดคล้องกับแนวคิดและข้อมูลใหม่ๆ ทางวิทยาศาสตร์โลกปัจจุบันอย่าง
สุดจะเชื่อ จีนกับสหรัฐอเมริกาตรงกันในเรื่องนี้ ศูนย์โนอาหรือองค์กร
สมุทรศาสตร์และบรรยากาศสหรัฐอเมริกา(National Oceanic and
 Atmosphere Administration-NOAA) ระบุว่า จะเกิดพายุสุริยะครั้ง
รุนแรงในช่วงเวลาดังกล่าว เช่นเดียวกับศูนย์อุตุนิยมวิทยาดาวเทียม
แห่งชาติ (NCMC) ประเทศจีน ซึ่งกล่าวไว้ตั้งแต่ 13 มี.ค. 2007 ว่า ได้ตรวจพบ
ปรากฏการณ์พายุสุริยะครั้งใหญ่ ซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนพ.ค. 2012 ก่อนจะทวี
ความรุนแรงสูงสุดในเดือนธ.ค. 2012

Sun Flare - พายุสุริยะ





















     นักวิทยาศาสตร์มีแนวคิดในเรื่องนี้ค่อนข้างหลากหลาย เช่น แนวคิดเรื่องจุดสมดุล
ของวงโคจรดวงอาทิตย์ ปรากฏการณ์การเรียงตัวของดาวพฤหัสและดาวเสาร์
(Great Chronocrator) หรือแนวคิดเรื่องการเรียงตัวของระบบสุริยะกับจุดศูนย์กลาง
ของกาแล็กซีทางช้างเผือก (The Galactic Alignment) รวมทั้งอีกมากมายที่มหัศจรรย์
พันลึกเสียยิ่งกว่าไหน เป็นวิทยาศาสตร์ผสมจินตนาการไซ-ไฟ ที่จะนำมาซึ่งปฏิกิริยา
แบบวินาศสันตะโรจริงๆ หรือไม่ ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องคิดและไตร่ตรองให้หนัก


เกิดดับแห่งจักรวาล

     ดร.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การเกิดดับของ
จักรวาลเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิต จึงเป็นเรื่องที่คนสนใจ และยิ่งเร้าใจเมื่อเป็น
เรื่องที่มีเงื่อนเวลา แต่ต้องระวังสำหรับคนที่ผิดปกติทางความคิด รับข้อมูลแล้ว
เกิดความเครียดวิตกกังวล และมีความเชื่อที่หลุดไปจากความจริง โดยเฉพาะพวก
 Thinking Disorder จิตเภท กลุ่มโรคหลงผิด ในต่างประเทศถึง
ขั้นชิงฆ่าตัวตายไปก่อนก็มี โดยต้องรับรู้ในเชิงบวก คิดวิเคราะห์ด้วยเหตุผล

     พระนักคิด ว.วชิรเมธี กล่าวว่า วันสิ้นโลกใน 3 ปีหน้า จะจริงไม่จริงก็ยังไม่แน่
แต่ถ้าจะมองผ่านมุมของพุทธศาสนาก็คือ วิธีคิดและวิถีชีวิต กับอารยธรรม
ของโลกเวลานี้ มนุษย์เดินอยู่บนสายพานแห่งความเร่งที่รวดเร็ว เข้มข้น
รุนแรง และสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอันตรายต่อโลกได้ทุกเมื่อ ปฏิทินวัน
สุดท้ายของโลกมองในมุมหนึ่งก็เป็นข้อดีที่ทำให้เราไม่ประมาท เมื่อ
ไม่ประมาทก็สามารถลุกขึ้นมาคิดหาวิธีรับมือกับความเสื่อม

     “ถ้าโลกนี้จะวิบัติ ก็วิบัติเพราะน้ำมือมนุษย์ และก็ด้วยน้ำมือมนุษย์อีก
เช่นกันที่จะทำให้โลกนี้หลุดพ้นจากความสิ้นสูญ”ว.วชิรเมธี กล่าวว่า ควร
ใช้ชีวิตวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะสิ่งที่คาดการณ์ยังอยู่ในอนาคต อย่าเอาความ
กลัวในอนาคตมาทำให้วันนี้ไม่มีความสุข โลกอาจถึงกาลวิบัติ แต่ไม่ได้
หมายความว่ามันวิบัติในวันนี้เสียหน่อย วันนี้ยังคงอยู่ในมือเรา ลุกขึ้นมา
บริหารจัดการวันนี้ให้ดีที่สุดดีกว่า
     รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ คณะทำงาน IPCC และผู้อำนวยการศูนย์พลังงาน
เพื่อสิ่งแวดล้อม มูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อมอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติ
สิรินธร กล่าวว่า อวสานโลกจะเกิดขึ้นเมื่อไร ไม่มีใครตอบได้ แต่ความจริงก็คือ
ถ้าไม่รีบแก้ไขอวสานโลกจะมาถึงแน่ด้วยภัยโลกร้อน ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์
ยืนยันว่า 50 ปีจากนี้โลกจะประสบภัยจากภาวะโลกร้อนขั้นเลวร้าย
ทั้งสึนามิ แผ่นดินไหว และภาวะน้ำแข็งละลายระดับทวีป “อุณหภูมิโลกจะสูง
ขึ้นอีก 2 องศา ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นอีก 1.6 เมตร
เรียกได้ว่าขั้นหายนะ ถ้าโลกไม่วิกฤตใน 3 ปีนี้ ก็ภายในไม่เกิน 50 ปี”
2012 - End of the world?



ตายเสียก่อนตาย


     ไม่ว่าจะอีก 3 ปี หรือ 50 ปี โลกก็แย่แน่ มุมมองต่อวันสิ้นโลกในฐานะ
นักคิดอิสระ ชัชรินทร์ กล่าวว่า ต้องมีสติและเตรียมใจ
เตรียมความคิด เตรียมใจ คือ การเข้าใจและปลงใจต่อสิ่งที่จะเกิด
 เตรียมความคิด คือ การศึกษาทำความเข้าใจเหตุปัจจัย
รวมทั้งศึกษาว่าเราจะเปลี่ยนแปลงมันได้อย่างไร จริงๆ แล้วก็เปลี่ยนได้
แต่ต้องหมายถึงการเปลี่ยนย้ายทั้งกระบวนทัศน์
เศรษฐกิจ สังคม การเมือง
     วันสุดท้ายที่จะมาถึง ควรกระตุ้นให้มนุษย์เกิดสติ เกิดการเตรียมใจ
ยอมรับสภาพด้วยความเข้าใจ เกิดความคิดที่จะหมุนเปลี่ยน
ตัวเองไปสู่การใช้ชีวิตตามหลักศาสนา หรือดังที่ท่านพุทธทาส กล่าวว่า
ตายเสียก่อนตาย เรื่องกลียุควันสิ้นโลกนัยหนึ่งแล้วก็สะท้อน
ให้เห็นถึงความเสื่อม ความดับ ความไม่จีรัง หรือความไม่แน่นอนของโลก
 เพื่อที่เราจะได้หาทางปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองให้
เหมาะสมสอดคล้องกับความไม่แน่นอนนั้น
     “คนไทยใกล้กับศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นศาสนาที่เป็นวิทยาศาสตร์
ก็ควรหันมาสนใจอย่างจริงจัง แล้วเราจะพบคำตอบของการดำรงชีวิต
อยู่ในโลกที่กำลังใกล้จะเปลี่ยนแปลงได้อย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์” ชัชรินทร์ กล่าว



เชิญชมภาพวันสิ้นโลก 2012  ได้ที่